ความแตกต่างระหว่าง “คนยุ่ง” กับ “คน Productive”
ความแตกต่างระหว่าง “คนยุ่ง” กับ “คน Productive” หลายครั้งที่เรามักหลงคิดว่าคนที่ทำงานอย่างหนักและมีสิ่งที่ต้องทำมากมายในแต่ละวันนั้น คือคนที่ประสบความสำเร็จและผลิตผลงานได้มากที่สุด แต่ความจริงแล้ว "คนยุ่ง" และ "คน productive" มีความแตกต่างที่สำคัญและส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จทางการเงินและชีวิตส่วนตัวของคุณ ในบทความนี้ โค้ชจะช่วยให้คุณเห็นความแตกต่างระหว่างสองแนวคิดนี้และวิธีการปรับเปลี่ยน mindset เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงในชีวิตคุณ
ความแตกต่างระหว่าง “คนยุ่ง” กับ “คน Productive”
- การเข้าใจความแตกต่าง: คนยุ่ง vs. คน Productive
- ทำไม “ความยุ่ง” ถึงไม่ได้แปลว่า “ความสำเร็จ”?
- การมุ่งสู่ความ productive ด้วย NLP และจิตวิทยาเชิงบวก
- เคล็ดลับการเปลี่ยนตัวเองจาก “คนยุ่ง” เป็น “คน productive”
การเข้าใจความแตกต่าง: คนยุ่ง vs. คน Productive
คนยุ่ง
คนที่มักจะ "ยุ่ง" ก็คือคนที่ทำหลายๆ อย่างพร้อมกันในทุกๆ วัน อาจมีหลายสิ่งที่ต้องจัดการ แต่มักไม่ค่อยมีเวลาให้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหรือเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ คนเหล่านี้อาจรู้สึกว่าตัวเองมีความคืบหน้า แต่ความยุ่งไม่ได้หมายความว่าจะมีผลลัพธ์ที่มีคุณค่าเสมอไป
คน Productive
ส่วนคนที่ “productive” หรือมีประสิทธิภาพสูง จะมุ่งเน้นไปที่การทำงานที่สำคัญที่สุดที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายระยะยาว พวกเขาใช้เวลาของตนอย่างมีเป้าหมายและตั้งใจ ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์และยั่งยืน โดยไม่ต้องใช้เวลาอย่างฟุ่มเฟือยหรือทำสิ่งที่ไม่จำเป็น
ทำไม “ความยุ่ง” ถึงไม่ได้แปลว่า “ความสำเร็จ”?
- การกระจายความสนใจ
คนที่ทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน อาจพบว่าเวลาไม่พอสำหรับการทำสิ่งที่สำคัญที่สุด หรือมีการกระจายความสนใจไปที่หลายๆ งานจนไม่สามารถโฟกัสได้เต็มที่ งานที่ทำก็อาจขาดประสิทธิภาพหรือคุณภาพ - การขาดการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
คนที่ "ยุ่ง" มักจะทำงานไปวันๆ โดยไม่มีการวางแผนหรือเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถวัดผลลัพธ์ที่แท้จริงได้ และรู้สึกเหนื่อยล้าโดยไม่มีการพัฒนาในระยะยาว - ไม่สามารถวัดผลสำเร็จได้
คนที่ยุ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเวลาของพวกเขาได้ถูกใช้ไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะความยุ่งเหยิงทำให้พวกเขาไม่สามารถพิจารณาผลลัพธ์ได้อย่างรอบคอบ
การมุ่งสู่ความ productive ด้วย NLP และจิตวิทยาเชิงบวก
1. การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
เมื่อคุณมุ่งมั่นที่จะเป็น "คน productive" การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เนื่องจากจะช่วยให้คุณโฟกัสกับงานที่สำคัญที่สุด โค้ชแนะนำให้ใช้เทคนิค NLP ในการตั้งคำถามในรูปแบบที่ช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจน เช่น "ถ้าฉันทำสิ่งนี้แล้วจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายอะไร?"
2. การเลือกงานที่สำคัญที่สุด
แทนที่จะทำทุกอย่างในทุกๆ วัน ลองเลือกทำงานที่มีผลกระทบสูง ต่อเป้าหมายของคุณมากที่สุด ซึ่งทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาและพลังงานที่ใช้ไปคุ้มค่า ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งเป้าหมายทางการเงิน ให้เลือกทำงานที่สามารถเพิ่มรายได้ของคุณหรือพัฒนาความสามารถในการจัดการเงิน
3. ใช้จิตวิทยาเชิงบวก
การใช้จิตวิทยาเชิงบวกจะช่วยให้คุณเห็นว่าแม้จะมีอุปสรรคหรือปัญหา คุณก็ยังสามารถก้าวข้ามไปได้ด้วยทัศนคติที่ดี การมองโลกในแง่ดีจะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองและทำงานให้สำเร็จ
4. การใช้เทคนิค NLP ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
NLP สามารถช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนวิธีการคิด และทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การฝึกฝนการมองงานในเชิงบวก การจัดการอารมณ์ในช่วงเวลาที่ท้าทาย หรือการเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจ
เคล็ดลับการเปลี่ยนตัวเองจาก “คนยุ่ง” เป็น “คน productive”
- จัดระเบียบวันของคุณ โดยการทำ To-Do List ที่มีการจัดลำดับความสำคัญ
- กำหนดเวลาสำหรับการทบทวนและปรับแผน เพื่อให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
- ใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การใช้เทคนิค Pomodoro เพื่อแบ่งเวลาทำงานและการพักผ่อน
- หยุดทำงานที่ไม่จำเป็น มองหาวิธีลดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายของคุณ
- มีความอดทนและตั้งใจ เมื่อคุณทำสิ่งที่สำคัญไปทีละขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่จะตามมา
สรุป
โค้ชขอสรุปให้ทุกท่านเห็นชัดเจนว่า ความสำเร็จไม่ได้มาจากการทำงานอย่างยุ่งเหยิงแต่เป็นการเลือกทำงานที่นำไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง หากคุณตั้งใจทำสิ่งที่สำคัญและใช้เทคนิคต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ความสำเร็จจะมาหาคุณในที่สุด อย่าลืมลงมือทำในวันนี้ เพื่อให้คุณมีอนาคตที่เต็มไปด้วยความสำเร็จและความมั่งคั่ง
หากคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง mindset และกลยุทธ์ในการพัฒนาความสำเร็จ คลิกที่นี่ เพื่อเยี่ยมชม Coachyuri.com หรือรับแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจาก TikTok ของโค้ชยูริ คลิกที่นี่ ลงมือทำวันนี้ เพื่อความสำเร็จในอนาคตของคุณ!